วันศุกร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2551

ประวัติการเสียดินแดนของไทย

อันนี้ไม่ได้ อยู่ฝั่งไหนนะคับ เพียงแต่เอาประวัติศาสตร์มาให้ดูกันเฉยๆ
อดีตนานมา เป็นอย่างนี้ เลือดบรรพบุรุษราดปฐพี ปูทางมา (T_T)

เสียครั้งแรกเกาะหมากจากแผนผัง เขาเปลี่ยนเป็นปีนังจำได้ไหม นั่นแหละจากขวานทองเล่มของไทย หนึ่งร้อยกว่าตารางไมล์หลักฐานมี
ครั้งที่สองเสียซ้ำยังจำได้ เสียมะริดและทวายตะนาวศรี



ครั้งที่สามบันทายมาศถูกตัดเฉือน แล้วเปลี่ยนเป็นฮาเตียนตั้งชื่อใหม่ ปีสองพันสามร้อยหกสิบสามแสนช้ำใจ เสียเนื้อที่เท่าไรไม่ปรากฎในบทความ

ครั้งที่สี่เจ็บแค้นเสียแสนหวี กินเนื้อที่ถึงเชียงตุงเหนือกรุงสยาม
ตั้งหกหมื่นตารางกิโลโถมันทำ ใครสร้างกรรมเดี๋ยวนี้เห็นดีกัน


ครั้งที่ห้ามาเสียรัฐเปรัค เขาหาญหักผลักล้มเชือดคมขวาน
ปีสองพันสามร้อยหกสิบเก้าแสนร้าวราน ต่างหยิบขวานขึ้นถือกู้ชื่อไทย

ครั้งที่หกอกตรมเดินก้มหน้า เสียสิบสองพันนาน้ำตาไหล
ตั้งเก้าหมื่นกิโลโถทำได้ แทบขาดใจต่อสู้ศัตรูมา



ครั้งที่เจ็ดเสียดินแดนแคว้นเขมร เกิดพิเรนเพราะฝรั่งกำลังบ้า
เที่ยวออกล่าเมืองขึ้นชื่นอุรา เสียอีกหนึ่งแสนกว่าตารางกิโล


ครั้งที่แปดเสียแคว้นดินแดนใหม่ ชื่อสิบสองจุไทยก็ใหญ่โข
เป็นเนื้อที่อีกแปดหมื่นตารางกิโล ต้องร้องโฮใจระเหี่ยเพราะเสียดาย
ครั้งที่เก้าเศร้าแสนแค้นไม่สิ้น เสียลุ่มน้ำสาละวินด้านฝั่งซ้าย
สิบสามหัวเมืองต้องจำเหมาให้เขาไป ใครที่ทำช้ำใจไทยต้องจำ

ครั้งที่สิบเลียบลำแม่น้ำโขง ถูกเขาโกงฝั่งซ้ายเพราะไทยถลำ

ครั้งที่สิบเอ็ดเสียฝั่งขวานั่งหน้าดำ มันเจ็บช้ำฝังจำอยู่กลางใจ

ครั้งที่สิบสองใจรันทดเพราะหมดท่า เสียมณฑลบูรพาอีกจนได้
เขามาพรากจากแหลมทองถิ่นของไทย อีกสองหมื่นตารางไมล์โดยประมาณ

ครั้งที่สิบสามเสียตรังกานูไทรบุรี ในแผนที่มองเห็นเป็นหลักฐาน
ไปถึงปะลิสติดรัฐกลันตัน อีกสามหมื่นโดยประมาณตารางไมล์


ครั้งที่สิบสี่เสียเขาพระวิหาร ปัจจุบันเป็นของเขมรท่านเห็นไหม


จำไว้เถิดเนื้อเชื้อชาติไทย จงรวมใจเข้าร่วมรวมพลัง
เหมือนลงเรือลำเดียวน้ำเชี่ยวจัด ช่วยกันคัดช่วยกันพายให้ถึงฝั่ง
อย่าหันหลังหน้าพะว้าพะวัง คนนั่งกลางเท้าอย่าราลงวารี
เป็นแดนดินถื่นสุดท้ายที่ไทยหวัง ทะเลล้อมรอบข้างหมดทางหนี
ครั้งที่สิบห้าต่อไปอย่าให้มี ใครย่ำยีข่มขู่จงสู้มัน
เราจะถอยต่อไปไม่ได้แล้ว ผืนแผ่นดินสิ้นแนวทะเลกั้น
ขวานเล่มนิดฤทธิ์ฉกาจเคยฟาดฟัน ระบือลั่นว่าไทยรักสามัคคี
เหล่าอมิตรที่คิดครองเมืองทองข้า จำสัตย์จาข้าลั่นลงอย่าสงสัย
แม้ผู้ใดหมายปองครอบครองไทย จงเอาไปหากแผ่นดินนี้สิ้นคน
วันใดพ่ายแก่ไพรี วันนั้นปฐพีไม่มี....กู


















วันพุธที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2551

ผีข้าวมันไก่ น่ากลัวมากๆๆ

เรื่องน่ากลัวมากๆๆๆๆๆๆๆ

มีชายคนหนึ่งที่บ้านทำมาหากินด้วยการขายข้าวมันไก่ ซึ่งบ้านนี้จะมีธรรมเนียมสืบทอดกันต่อ ๆมาว่า เมื่อเจ้าของกิจการตาย ผู้ที่เป็นลูกชายจะต้องทำการสืบทอดกิจการนี้ต่อจากผู้เป็นพ่อ ซึ่งบ้านนี้ก็ทำเช่นนี้มาตลอดถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยเต็มใจทำก็ตาม
จนวันหนึ่งพ่อของชายคนนี้เสียชีวิตลง เขาก็จำเป็นต้องสืบทอดกิจการร้านข้าวมันไก่ต่อจากพ่อของเขา ทุก ๆอย่างเหมือนจะเป็นไปได้ด้วยดี จนมาถึงวันครบรอบการตายของพ่อเขา วันนั้นที่ร้านขายดีมากๆ แบบที่ไม่เคยขายดีขนาดนี้มาก่อน
ได้มีเด็กผู้หญิงคนนึงซึ่งเธอเป็นลูกค้าประจำของร้าน มาซื้อข้าวมันไก่ไปกินเป็นอาหารเย็น ตอนนั้นเป็นเวลาโพล้เพล้ แสงอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้า เจ้าของร้านก็รีบทำให้เด็กผู้หญิงเพราะเริ่มมืดแล้ว เธอยังต้องเดินไปบ้านเธออีกไกล เด็กผู้หญิงก็รีบเดินกลับไปบ้าน ด้วยหวังว่าจะได้อร่อยกับข้าวมันไก่ แต่เมื่อเธอมาถึงบ้านและเปิดดูในกล่องข้าว ปรากฏว่ามีแต่ข้าว ไม่มีไก่แม้แต่ชิ้นเดียว!!! เธอแปลกใจมาก หลังจากนั้นเธอก็เดิน ออกไปเพื่อซื้อข้าวมันไก่อีกครั้ง แต่คราวนี้เธอจับตามองดูเจ้าของร้านอย่างใจจดใจจ่อ เพราะกลัวว่าเจ้าของร้านจะโกงเธอ แต่ทุกอย่างก็เป็นไปตามปกติ เธอก็รีบเอาข้าวมันไก่กล่องนั้นกลับบ้านทันที เมื่อมาถึงบ้านเธอก็รีบเปิดกล่องข้าวมันไก่ทันที แต่แล้ว.....ก็ไม่พบไก่แม้แต่ชิ้นเดียวเหมือนเดิม
อากาศรอบข้างตอนนั้นเงียบสงัด เยือกเย็น ทันใดนั้นเธอก็ได้ยินเสียงแง้มประตู เธอเริ่มกลัว แต่ทว่า เสียงนั้นเป็นเสียงพ่อของเธอกำลังเปิดประตูบ้านเดินเข้ามา เธอจึงส่งเสียงเรียกพ่อของเธอ

เด็กผู้หญิง : (เสียงสั่น) พ่อจ๋า พ่อมาดูอะไรนี่สิพ่อ หนูซื้อข้าวมันไก่ มา 2 กล่อง แต่มันไม่มีไก่แม้แต่ชิ้นเดียว ทั้ง ๆ ที่เจ้าของร้านเขาก็ใส่ไก่มาให้แล้ว (เสียงเครือเหมือนจะร้องไห้ด้วยความกลัว)พ่อของเธอทำหน้าแปลกใจ แล้วครุ่นคิดอย่างรอบคอบ ทันใดนั้นพ่อของเธอก็กลับกล่องข้าวมันไก่แล้วเปิดดูทันที

พ่อ : อีเด็กโง่ เอ๊ย มึงนี่โง่จริง ๆ ทีหลังเปิดกล่องให้ถูกด้านสิวะ ไก่มันอยู่ฝั่งนี้โว้ย เดี๋ยวตบดิ้นเลย
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++