วันอาทิตย์ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2551

ความเร้นลับของ สุสานจิ๋นซีฮ่องเต้






ตอนที่ชาวนาคนหนึ่งขุดดินในเมืองซีอาน เมื่อปี ค.ศ. 1974 นั้น คงไม่ได้คิดมาก่อนเลยว่าจะได้พบสิ่งที่ถูกเรียกขานกันว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์อันดับ 8 ของโลก สิ่งที่หายไปจากหน้าประวัติศาสตร์จีนนานกว่า 2,000 ปี "สุสานจิ๋นซีฮ่องเต้" จักรพรรดิผู้เกริกไกรที่สุดของแดนมังกรจนถึงปัจจุบันนี้ เป็นเวลา 34 ปีมาแล้ว ที่ "ส่วนหนึ่ง" ของสุสานจิ๋นซีฮ่องเต้ ผู้รวบรวมจีนเป็นแผ่นดินเดียวถูกเปิดเผยออกมาสู่ สายตาชาวโลก และแม้จะเป็นเพียงส่วนเดียว แต่ก็สร้างความตื่นตาตื่นใจอย่างเหลือประมาณ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หุ่นทหารดินเผา 8,000 ตัว ที่แต่ละตัวมีหน้าตาไม่เหมือนกันเลยแต่ถึงกระนั้น ก็ยังไม่มีการค้นพบตัว สุสานที่แท้จริง หรือพระศพของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่นี้ ซึ่งจากข้อมูลเท่าที่มี นักวิชาการก็สันนิษฐานกันว่า สถานที่เก็บพระศพก็น่าจะอยู่ไม่ไกลจากพื้นที่สุสานที่เปิดออกมาแล้วนั่นเองแต่การสันนิษฐานนั้นจะจริงหรือไม่ ยังคงเป็นเรื่องที่พิสูจน์ไม่ได้ และไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ จะได้พิสูจน์ เพราะทางการจีนยังไม่อนุญาตให้ขุดค้นเนินดินใหญ่ ที่คิดว่าเป็นสถานที่สำคัญที่สุดในหน้าประวัติศาสตร์นี้ เนื่องจากเกรงว่า หากเปิดที่ฝังพระศพจอมจักรพรรดิออกมาแล้ว ความลับที่ยืนยาวมานานกว่า 2 สหัสวรรษ อาจจะเกิดความเสียหายได้ เพราะยังไม่มีเทคโนโลยีใดที่จะรับประกันว่า เมื่อโบราณวัตถุที่เก็บอยู่ในสุสานต้องออกมา พบกับอากาศในยุคปัจจุบันแล้วจะไม่เสื่อมสลายไป



แต่การไม่อนุญาตให้ขุดค้น ก็ไม่ได้ หมายความว่าจะไม่มีโอกาสได้รู้เลยว่า ภายในสุสานจิ๋นซีมีอะไรอยู่


เมื่อปีที่แล้วนี้เอง ที่มีการใช้เทคโนโลยีการสำรวจระยะไกล "ส่อง" เข้าไปในเนินดินขนาดใหญ่ใกล้กับบริเวณที่พบหุ่นทหารดินเผาอันเลื่องชื่อ แล้วก็ได้พบความน่าอัศจรรย์ใจยิ่งกว่าสิ่งที่ถูกค้นพบมาก่อนแล้วเสียอีกนักโบราณคดีจีนได้เห็นภาพว่า ลึกลงไปใต้พื้นดินราว 21 เมตร มีสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่อยู่ ในนั้น เป็นอาคารสูงตั้ง 30 เมตร รูปทรงคล้ายพีระมิดหัวตัด กว้าง 125 เมตร ยาว 145 เมตร ด้านข้างแต่ละด้านมีลักษณะคล้ายบันได และลึกลงไปจากตัวอาคารนี้ ถึงจะเป็นสุสานของจริง ที่มีขนาดกว้าง 50 เมตร ยาว 80 เมตร สูง 15 เมตร


ระหว่างอาคารใหญ่ ซึ่งถูกเรียกว่า ปราสาทของจักรพรรดิไปถึงตัวสุสาน มีทางลาดเชื่อมถึงกัน และเมื่อตรวจสอบด้วยเทคโนโลยีสมัย ใหม่ ก็เห็น "รางๆ" ว่า บริเวณทางเดินนี้ เต็มไปด้วยรถม้า และม้าที่สร้างด้วยบรอนซ์ ขนาดใหญ่ประมาณครึ่งหนึ่งของขนาดจริงเห็นอย่างนี้แล้ว นักโบราณคดีต่างร้องโหวกเหวก อยากจะขุดเข้าไปให้เห็นกับตาจริงๆ เสียทีว่าจะมีจริงอย่างที่ "ตาอิเล็กทรอนิกส์" ส่องมองแทนหรือไม่ แต่งานนี้ก็ยังคงเป็นทางตัน เพราะแม้นักวิชาการหลายต่อหลายคนจะร้องขอขนาดไหน ทางการจีนก็ยังส่ายหน้าปฏิเสธ ด้วยเหตุผลเดิมว่า รอให้มีเทคโนโลยีที่ดีกว่านี้ในการอนุรักษ์ ทรัพย์สินของจักรพรรดิเสียก่อน ซึ่งก็น่าเห็นใจรัฐบาลจีน เพราะที่ ผ่านๆมา การขุดค้นแหล่งโบราณสถานหลายแห่งก็มีตัวอย่างให้ได้เห็นๆกันมาหลายครั้งแล้วว่า พอของมีค่าจากหน้าประวัติศาสตร์ที่ถูกผนึกไว้นาน ได้ออกมาเจอะออกซิเจนจากภายนอก ก็มีอันเสียหาย และบางชิ้นถึงกับป่นเป็นผุยผง อย่างนี้แล้วจะเสี่ยงกับสุสานจิ๋นซีที่เป็นสุสาน ซึ่งอาจจะสำคัญที่สุดในโลกนี้ได้อย่างไรเลยต้องร้องเพลงรอกันไปก่อนนอกจากสุสานแล้ว พระศพของจอมจักรพรรดิเอง ก็เป็นอีกหนึ่งในสิ่งที่นักโบราณคดีอยากเจอกันมาก เมื่อก่อนนี้เคยเชื่อกันว่า พระศพจริงๆอาจจะอยู่ที่อื่น และสุสานที่เห็นอาจเป็นเพียงสิ่งลวง แต่ถึงวันนี้ จากการศึกษามากขึ้นก็ชักเชื่อกันใหม่ว่า ไม่ต้องไปไกลที่ไหนหรอก จุดที่พบพระราชวังใต้ดิน และสุสานใต้ดินนี่แหละ เป็นสถานที่เก็บพระศพของแท้นักวิชาการยังเชื่อกันว่า หากเปิดสุสานออกมาเมื่อไหร่ เป็นได้เจอพระศพแบบสมบูรณ์ ไม่เสียหายค่อนข้างแน่นอน เพราะมีตำรับตำราหลายเล่มที่ระบุว่า จิ๋นซีฮ่องเต้ได้มีพระบัญชาให้รักษาพระศพของพระองค์ด้วยปรอทนอกจากนั้น เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ หัวขโมยบังอาจเข้ามาในที่พำนักชั่วนิรันดร์ของพระองค์ ก็มีพระบัญชาให้สร้างกลไกในการป้องกันผู้มาเยือนโดยพลการเอาไว้จำนวนมาก ด้วยสันนิษฐานกันว่า หากใครที่ไม่ได้ รับเชิญดัน "เจ๋อ" เข้ามาในสุสานของพระองค์ เห็นทีต้องโดนกลไกสารพัดอาวุธทำร้ายเอาแน่ๆ และนี่ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ยังไม่ควรเปิด สุสาน หากยังไม่แน่ใจในความปลอดภัยบางตำนานบอกว่า บริเวณที่ล้อมรอบพระศพของจิ๋นซีฮ่องเต้ นั้น เป็นลำธารปรอทเพื่อรักษาพระศพ ซึ่งอาจจะมีความเป็นพิษสำหรับผู้มาเยือนด้วย และจากการตรวจสอบด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ก็พบว่า บริเวณที่คาดว่าเป็นสุสานนั้น มีความเข้มข้นของสารปรอทมากผิดปกติ โดยเฉพาะตรงกลางของเนินดินที่มีปรอทมากกว่าบริเวณอื่นๆตั้ง 50 เท่า เลยยิ่งฟันธงกันไปใหญ่ว่า พระศพอยู่ตรงนี้แหงๆแต่บอกให้เสียใจอีกทีว่า ต้องร้องเพลงรอไปก่อน ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่นักโบราณคดีจะได้โอกาสเปิดตัวอาคารลึกลับนี้เข้าไปดูให้ เห็นเป็นบุญตาว่า จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งของโลกบรรทมอยู่อย่างไรในห้องสุดท้ายของพระองค์

ปริศนาลึกลับของสุสานและพระศพขององค์จักรพรรดิจิ๋นซี สร้างความพิศวงสงสัยจนผู้คนทั่วโลกต้องจับตามอง จนกระทั่งถูกหยิบยกเอาไปเป็นเค้าโครงของภาพยนตร์ ระดับฮอลลีวูด เรื่อง THE MUMMY : TOMB OF THE DRAGON EMPEROR ซึ่งในภาคที่แล้วเป็นเรื่องของมัมมี่อียิปต์ แต่คราวนี้ทีมงานหันมาสร้างถึงมัมมี่จีนบ้าง โดยเป็นเรื่องของจักรพรรดิในยุค 50 ปีก่อนคริสตกาล ซึ่งต้องคำสาปทำให้พระองค์และไพร่พล กลายเป็นกองทัพหุ่นกระเบื้องเคลือบไปตลอดกาล จนมีผู้มาพบสุสานลับ และปลุก พระองค์พร้อมทหารหาญให้ฟื้นคืนชีพ...เรื่องแบบนี้คิดๆไปก็อาจไม่ต่างจากเรื่องจริง เพราะใครเลยจะปฏิเสธได้ว่า บรรดานักวิทยาศาสตร์ทั้งหลายจะไม่แอบคิดหาวิธี ตระเตรียมไว้ปลุกองค์จิ๋นซีให้ฟื้นตื่นจากนิทรารมย์ขึ้นมาบ้าง...
ทีมงาน ต่วย'ตูน
ที่มา หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ





12 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เมื่อวานไปดูหนังเรื่อง Mummy มา ส่วนตัวชอบภาคแรกมากที่สุดเพราะเมื่อพูดถึง Mummy จะนึกถึง Egypt หรือ Pyramid ก่อนเป็นอันดับแรก แต่เที่ยวนี้พูดถึงจีนเป็นส่วนใหญ่

และเหมือนว่า นักล่า Mummy มืออาชีพอย่าง O Connell เกือบจะไม่มีบทบาทเลย บทจะหนักไปทาง Jet Lee มากกว่า อาจจะกำลัง Intrend ของ Olypic Games Beijing อยู่พอดี

เดี๋ยวจะหาหนัง BatMan (The Dark Night) มาให้ดู

รักทุกคน

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เทคโนโลยี ก้าวไกลขึ้นทุกวัน ความมหัศจรรย์บรรเจิด

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

รักทุกคนคับ

สุบดินทร์ (ต้น) กล่าวว่า...

ไปดูมาแล้วสนุกมาก อย่าพลาดเด็ดขาดขอบอก

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

3ทุ่ม มีนัดไปเตะบอลคับ

Peraporn C. กล่าวว่า...

*** หนังสือชุด เจาะเวลาหาจิ๋นซี อ่านหรือยัง ติด rate เล็กน้อย สนุกดีครับ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

สวัสดีครับ อาจารย์

ยังไม่ได้อ่านครับ

แต่เคยอ่านประวัติศาสตร์ชาวจีน ผมค่อนข้างจะ Impress พวกชนชาวจีนนะครับ เป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่มากๆ

ผมมีลูกค้าอยู่หลายรายและก็เคยไปหลายหน

ว่าเเต่ว่า อาจารย์ Update Master Blog ให้มีสีสรรหน่อยซิครับ เห็นสีชมพูมาตั้งเกือบ 2 เดือนแล้วครับ

Tarawadee เองก็พยายามปรับหรือ Post ข้อความใหม่ทุกๆ 3 วันครับ

ขอบคุณที่มาเยี่ยมชมครับ

ขอแสดงความนับถือ
อาทร/Krirk (22) 429-04-1024

Peraporn C. กล่าวว่า...

*** ขอบคุณ คุณอาทรที่ติชม
blog ของผมไม่ค่อยหวือหวา
ด้วยเหตุผล 3 ประการ

1.กลัวจะงามเกินนักศึกษา
2.blog ของผมไม่มีการให้คะแนน ใช้เพื่อสื่อสาร
3.ยอมรับโดยดีว่า เทคนิคต่างๆสู้พวกคุณไม่ได้จริงๆ

แต่ก็แอบภูมิใจอยู่ลึกๆว่า นักศึกษาของเรานี่สุดยอด.......

Be My Guest กล่าวว่า...

++ ที่เคยดูทีวี "จิ๋นซีฮ่องเต้" พระองค์ท่านทรงเป็นจักรพรรดิ์ที่สุดยอดจริง ๆ เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของแดนมังกร กำแพงเมืองจีน แต่บางมุมท่านก็ดูโหดเหี้ยม ในเรื่องการสั่งฆ่าผู้คนแบบเป็นๆ เห็นแล้วก็สลด ดูพวกเค้าทรมานมาก ++

ภิญญดา บ้าน818 กล่าวว่า...

**ไปเที่ยวเมืองจีนมาแล้ว ไปดูสุสานหลายแห่ง แต่ยังไม่ได้ไปที่เมืองซีอานเลย ถ้ามีโอกาสคิดว่าจะไปนะ เพราะยิ่งใหญ่ และมีความเร้นลับที่เกี่ยวกับพระศพของจักรพรรดิ**

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

อยากไปมาก..เมืองซีอาน..แต่การเดินทางลำบาก
ใช้เวลาเยอะ..ที่สำคัญกลัว เรื่อง..ห้องน้ำสุดๆๆ.
ความยิ่งใหญ่ไม่แพ้กันเลย..อียิปต์ กับ สุสานจักรพรรดิจิ้นซีฮ่องเต้..ต้องยกให้จริงๆ

chavalit กล่าวว่า...

อยากไปเที่ยวเมืองจีนเหมือนกัน รอพักร้อนปีหน้าครับเรียนจบพอดี