ตอนที่ชาวนาคนหนึ่งขุดดินในเมืองซีอาน เมื่อปี ค.ศ. 1974 นั้น คงไม่ได้คิดมาก่อนเลยว่าจะได้พบสิ่งที่ถูกเรียกขานกันว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์อันดับ 8 ของโลก สิ่งที่หายไปจากหน้าประวัติศาสตร์จีนนานกว่า 2,000 ปี "สุสานจิ๋นซีฮ่องเต้" จักรพรรดิผู้เกริกไกรที่สุดของแดนมังกรจนถึงปัจจุบันนี้ เป็นเวลา 34 ปีมาแล้ว ที่ "ส่วนหนึ่ง" ของสุสานจิ๋นซีฮ่องเต้ ผู้รวบรวมจีนเป็นแผ่นดินเดียวถูกเปิดเผยออกมาสู่ สายตาชาวโลก และแม้จะเป็นเพียงส่วนเดียว แต่ก็สร้างความตื่นตาตื่นใจอย่างเหลือประมาณ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หุ่นทหารดินเผา 8,000 ตัว ที่แต่ละตัวมีหน้าตาไม่เหมือนกันเลยแต่ถึงกระนั้น ก็ยังไม่มีการค้นพบตัว สุสานที่แท้จริง หรือพระศพของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่นี้ ซึ่งจากข้อมูลเท่าที่มี นักวิชาการก็สันนิษฐานกันว่า สถานที่เก็บพระศพก็น่าจะอยู่ไม่ไกลจากพื้นที่สุสานที่เปิดออกมาแล้วนั่นเองแต่การสันนิษฐานนั้นจะจริงหรือไม่ ยังคงเป็นเรื่องที่พิสูจน์ไม่ได้ และไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ จะได้พิสูจน์ เพราะทางการจีนยังไม่อนุญาตให้ขุดค้นเนินดินใหญ่ ที่คิดว่าเป็นสถานที่สำคัญที่สุดในหน้าประวัติศาสตร์นี้ เนื่องจากเกรงว่า หากเปิดที่ฝังพระศพจอมจักรพรรดิออกมาแล้ว ความลับที่ยืนยาวมานานกว่า 2 สหัสวรรษ อาจจะเกิดความเสียหายได้ เพราะยังไม่มีเทคโนโลยีใดที่จะรับประกันว่า เมื่อโบราณวัตถุที่เก็บอยู่ในสุสานต้องออกมา พบกับอากาศในยุคปัจจุบันแล้วจะไม่เสื่อมสลายไป
แต่การไม่อนุญาตให้ขุดค้น ก็ไม่ได้ หมายความว่าจะไม่มีโอกาสได้รู้เลยว่า ภายในสุสานจิ๋นซีมีอะไรอยู่

ระหว่างอาคารใหญ่ ซึ่งถูกเรียกว่า ปราสาทของจักรพรรดิไปถึงตัวสุสาน มีทางลาดเชื่อมถึงกัน และเมื่อตรวจสอบด้วยเทคโนโลยีสมัย ใหม่ ก็เห็น "รางๆ" ว่า บริเวณทางเดินนี้ เต็มไปด้วยรถม้า และม้าที่สร้างด้วยบรอนซ์ ขนาดใหญ่ประมาณครึ่งหนึ่งของขนาดจริงเห็นอย่างนี้แล้ว นักโบราณคดีต่างร้องโหวกเหวก อยากจะขุดเข้าไปให้เห็นกับตาจริงๆ เสียทีว่าจะมีจริงอย่างที่ "ตาอิเล็กทรอนิกส์" ส่องมองแทนหรือไม่ แต่งานนี้ก็ยังคงเป็นทางตัน เพราะแม้นักวิชาการหลายต่อหลายคนจะร้องขอขนาดไหน ทางการจีนก็ยังส่ายหน้าปฏิเสธ ด้วยเหตุผลเดิมว่า รอให้มีเทคโนโลยีที่ดีกว่านี้ในการอนุรักษ์ ทรัพย์สินของจักรพรรดิเสียก่อน ซึ่งก็น่าเห็นใจรัฐบาลจีน เพราะที่ ผ่านๆมา การขุดค้นแหล่งโบราณสถานหลายแห่งก็มีตัวอย่างให้ได้เห็นๆกันมาหลายครั้งแล้วว่า พอของมีค่าจากหน้าประวัติศาสตร์ที่ถูกผนึกไว้นาน ได้ออกมาเจอะออกซิเจนจากภายนอก ก็มีอันเสียหาย และบางชิ้นถึงกับป่นเป็นผุยผง อย่างนี้แล้วจะเสี่ยงกับสุสานจิ๋นซีที่เป็นสุสาน ซึ่งอาจจะสำคัญที่สุดในโลกนี้ได้อย่างไรเลยต้องร้องเพลงรอกันไปก่อนนอกจากสุสานแล้ว พระศพของจอมจักรพรรดิเอง ก็เป็นอีกหนึ่งในสิ่งที่นักโบราณคดีอยากเจอกันมาก เมื่อก่อนนี้เคยเชื่อกันว่า พระศพจริงๆอาจจะอยู่ที่อื่น และสุสานที่เห็นอาจเป็นเพียงสิ่งลวง แต่ถึงวันนี้ จากการศึกษามากขึ้นก็ชักเชื่อกันใหม่ว่า ไม่ต้องไปไกลที่ไหนหรอก จุดที่พบพระราชวังใต้ดิน และสุสานใต้ดินนี่แหละ เป็นสถานที่เก็บพระศพของแท้นักวิชาการยังเชื่อกันว่า หากเปิดสุสานออกมาเมื่อไหร่ เป็นได้เจอพระศพแบบสมบูรณ์ ไม่เสียหายค่อนข้างแน่นอน เพราะมีตำรับตำราหลายเล่มที่ระบุว่า จิ๋นซีฮ่องเต้ได้มีพระบัญชาให้รักษาพระศพของพระองค์ด้วยปรอทนอกจากนั้น เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ หัวขโมยบังอาจเข้ามาในที่พำนักชั่วนิรันดร์ของพระองค์ ก็มีพระบัญชาให้สร้างกลไกในการป้องกันผู้มาเยือนโดยพลการเอาไว้จำนวนมาก ด้วยสันนิษฐานกันว่า หากใครที่ไม่ได้ รับเชิญดัน "เจ๋อ" เข้ามาในสุสานของพระองค์ เห็นทีต้องโดนกลไกสารพัดอาวุธทำร้ายเอาแน่ๆ และนี่ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ยังไม่ควรเปิด สุสาน หากยังไม่แน่ใจในความปลอดภัยบางตำนานบอกว่า บริเวณที่ล้อมรอบพระศพของจิ๋นซีฮ่องเต้ นั้น เป็นลำธารปรอทเพื่อรักษาพระศพ ซึ่งอาจจะมีความเป็นพิษสำหรับผู้มาเยือนด้วย และจากการตรวจสอบด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ก็พบว่า บริเวณที่คาดว่าเป็นสุสานนั้น มีความเข้มข้นของสารปรอทมากผิดปกติ โดยเฉพาะตรงกลางของเนินดินที่มีปรอทมากกว่าบริเวณอื่นๆตั้ง 50 เท่า เลยยิ่งฟันธงกันไปใหญ่ว่า พระศพอยู่ตรงนี้แหงๆแต่บอกให้เสียใจอีกทีว่า ต้องร้องเพลงรอไปก่อน ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่นักโบราณคดีจะได้โอกาสเปิดตัวอาคารลึกลับนี้เข้าไปดูให้ เห็นเป็นบุญตาว่า จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งของโลกบรรทมอยู่อย่างไรในห้องสุดท้ายของพระองค์

ปริศนาลึกลับของสุสานและพระศพขององค์จักรพรรดิจิ๋นซี สร้างความพิศวงสงสัยจนผู้คนทั่วโลกต้องจับตามอง จนกระทั่งถูกหยิบยกเอาไปเป็นเค้าโครงของภาพยนตร์ ระดับฮอลลีวูด เรื่อง THE MUMMY : TOMB OF THE DRAGON EMPEROR ซึ่งในภาคที่แล้วเป็นเรื่องของมัมมี่อียิปต์ แต่คราวนี้ทีมงานหันมาสร้างถึงมัมมี่จีนบ้าง โดยเป็นเรื่องของจักรพรรดิในยุค 50 ปีก่อนคริสตกาล ซึ่งต้องคำสาปทำให้พระองค์และไพร่พล กลายเป็นกองทัพหุ่นกระเบื้องเคลือบไปตลอดกาล จนมีผู้มาพบสุสานลับ และปลุก พระองค์พร้อมทหารหาญให้ฟื้นคืนชีพ...เรื่องแบบนี้คิดๆไปก็อาจไม่ต่างจากเรื่องจริง เพราะใครเลยจะปฏิเสธได้ว่า บรรดานักวิทยาศาสตร์ทั้งหลายจะไม่แอบคิดหาวิธี ตระเตรียมไว้ปลุกองค์จิ๋นซีให้ฟื้นตื่นจากนิทรารมย์ขึ้นมาบ้าง...
ทีมงาน ต่วย'ตูน
ที่มา หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
12 ความคิดเห็น:
เมื่อวานไปดูหนังเรื่อง Mummy มา ส่วนตัวชอบภาคแรกมากที่สุดเพราะเมื่อพูดถึง Mummy จะนึกถึง Egypt หรือ Pyramid ก่อนเป็นอันดับแรก แต่เที่ยวนี้พูดถึงจีนเป็นส่วนใหญ่
และเหมือนว่า นักล่า Mummy มืออาชีพอย่าง O Connell เกือบจะไม่มีบทบาทเลย บทจะหนักไปทาง Jet Lee มากกว่า อาจจะกำลัง Intrend ของ Olypic Games Beijing อยู่พอดี
เดี๋ยวจะหาหนัง BatMan (The Dark Night) มาให้ดู
รักทุกคน
เทคโนโลยี ก้าวไกลขึ้นทุกวัน ความมหัศจรรย์บรรเจิด
รักทุกคนคับ
ไปดูมาแล้วสนุกมาก อย่าพลาดเด็ดขาดขอบอก
3ทุ่ม มีนัดไปเตะบอลคับ
*** หนังสือชุด เจาะเวลาหาจิ๋นซี อ่านหรือยัง ติด rate เล็กน้อย สนุกดีครับ
สวัสดีครับ อาจารย์
ยังไม่ได้อ่านครับ
แต่เคยอ่านประวัติศาสตร์ชาวจีน ผมค่อนข้างจะ Impress พวกชนชาวจีนนะครับ เป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่มากๆ
ผมมีลูกค้าอยู่หลายรายและก็เคยไปหลายหน
ว่าเเต่ว่า อาจารย์ Update Master Blog ให้มีสีสรรหน่อยซิครับ เห็นสีชมพูมาตั้งเกือบ 2 เดือนแล้วครับ
Tarawadee เองก็พยายามปรับหรือ Post ข้อความใหม่ทุกๆ 3 วันครับ
ขอบคุณที่มาเยี่ยมชมครับ
ขอแสดงความนับถือ
อาทร/Krirk (22) 429-04-1024
*** ขอบคุณ คุณอาทรที่ติชม
blog ของผมไม่ค่อยหวือหวา
ด้วยเหตุผล 3 ประการ
1.กลัวจะงามเกินนักศึกษา
2.blog ของผมไม่มีการให้คะแนน ใช้เพื่อสื่อสาร
3.ยอมรับโดยดีว่า เทคนิคต่างๆสู้พวกคุณไม่ได้จริงๆ
แต่ก็แอบภูมิใจอยู่ลึกๆว่า นักศึกษาของเรานี่สุดยอด.......
++ ที่เคยดูทีวี "จิ๋นซีฮ่องเต้" พระองค์ท่านทรงเป็นจักรพรรดิ์ที่สุดยอดจริง ๆ เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของแดนมังกร กำแพงเมืองจีน แต่บางมุมท่านก็ดูโหดเหี้ยม ในเรื่องการสั่งฆ่าผู้คนแบบเป็นๆ เห็นแล้วก็สลด ดูพวกเค้าทรมานมาก ++
**ไปเที่ยวเมืองจีนมาแล้ว ไปดูสุสานหลายแห่ง แต่ยังไม่ได้ไปที่เมืองซีอานเลย ถ้ามีโอกาสคิดว่าจะไปนะ เพราะยิ่งใหญ่ และมีความเร้นลับที่เกี่ยวกับพระศพของจักรพรรดิ**
อยากไปมาก..เมืองซีอาน..แต่การเดินทางลำบาก
ใช้เวลาเยอะ..ที่สำคัญกลัว เรื่อง..ห้องน้ำสุดๆๆ.
ความยิ่งใหญ่ไม่แพ้กันเลย..อียิปต์ กับ สุสานจักรพรรดิจิ้นซีฮ่องเต้..ต้องยกให้จริงๆ
อยากไปเที่ยวเมืองจีนเหมือนกัน รอพักร้อนปีหน้าครับเรียนจบพอดี
แสดงความคิดเห็น